• การพัฒนาซอฟต์แวร์ chevron_right
  • Seo และ Lead chevron_right
  • เนื้อหา และ AR chevron_right
  • สร้างสรรค์และ UX chevron_right
  • พวกเราคือใคร chevron_right
keyboard_backspace
keyboard_backspace
1
กำหนดรายได้ที่มาจากแหล่งที่มาของโฆษณา
คุณสร้างรายได้เท่าใดจากแหล่งที่มาของโฆษณาที่เฉพาะเจาะจง ป้อนข้อมูลนั้นในฟิลด์แบบฟอร์มแรก
2
กำหนดต้นทุนของแหล่งที่มาของโฆษณาของคุณ
คุณใช้เงินไปเท่าไหร่กับแหล่งที่มาของโฆษณานั้นๆ ข้อมูลนั้นจะอยู่ในช่องฟอร์มที่สอง
3
ใช้เมตริก ROAS ที่พบใหม่ เพื่อปรับปรุงแคมเปญของคุณ!
หลังจากป้อนรายได้ที่ได้รับและต้นทุนของแหล่งที่มาของโฆษณาแล้ว คุณจะสามารถทราบผลลัพธ์จากเมตริก ROAS ใหม่ของคุณได้!
ROAS คืออะไร?

ROAS หมายถึงผลตอบแทนจากค่าโฆษณาที่ได้ดำเนินการไป

เมตริกนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ใช้โฆษณาแบบชำระเงินเป็นกลยุทธ์ เพราะช่วยให้ทราบว่าบริษัทสร้างผลตอบแทนได้เท่าใดเมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ใช้จ่ายไปกับโฆษณา

คุณสามารถคำนวณ ROAS ด้วยตนเองด้วยสูตร ROAS ด้านล่างหรือใช้เครื่องคำนวณ ROAS ฟรีของเรา

สูตร ROAS ช่วยให้คุณทราบว่าคุณทำกำไรได้หรือไม่ หลังจากหักค่าใช้จ่ายโฆษณาไปแล้ว หากคุณทำเงินจากโฆษณาได้ จะมีเปอร์เซ็นต์ ROAS เป็นบวก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำกำไรจากแคมเปญโฆษณาได้เสมอไป

ตัวอย่างเช่น หากคุณขายโฆษณาได้ ฿6,000 และคุณใช้จ่ายค่าโฆษณาไป ฿9,000 ROAS ของคุณจะเท่ากับ 67% ในตอนแรกคุณอาจพอใจกับตัวเลขนั้น แต่ในความเป็นจริงคุณไม่ได้ทำกำไรจริงๆ เพราะเสียค่าโฆษณามากกว่ารายได้ ฿ 3,000

สูตรผลตอบแทนจากค่าโฆษณา

คุณต้องการคำนวณเปอร์เซ็นต์ ROAS ด้วยตนเองหรือไม่? ถ้าใช่ลองดูสูตร ROAS ด้านล่าง!

ROAS = (เงินที่ได้จากโฆษณา / เงินที่ใช้กับโฆษณา) x 100

เมื่อคำนวณตามสูตร ROAS คุณจะได้รับเปอร์เซ็นต์ ROAS เปอร์เซ็นต์นี้แสดงจำนวนเงินที่คุณได้รับจากโฆษณาโดยสัมพันธ์กับจำนวนเงินที่คุณใช้จ่ายไปกับโฆษณา

ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาที่ดีคืออะไร?

การทำ ROAS ที่ “ดี” เป็นเรื่องยาก แต่โดยทั่วไปคุณต้องการมี ROAS ที่มากกว่า 100% หากมี ROAS 100% จะคุ้มทุนด้วยค่าใช้จ่ายโฆษณาและผลตอบแทนจากโฆษณาของคุณ

ประโยชน์ของการใช้เครื่องคำนวณ ROAS

ดังนั้นประโยชน์ของการใช้เครื่องคำนวณผลตอบแทนจากค่าโฆษณาคืออะไร?

มีดังต่อไปนี้

1. คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบของแคมเปญโฆษณา

เช่นเดียวกับคนที่ต้องการการรักษาเมื่อป่วย เมื่อเราไอหรือมีไข้เรารู้ว่านี่เป็นสัญญาณแรกของการเจ็บป่วย แคมเปญโฆษณาของคุณก็ต้องได้รับการรักษาหากไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ แคมเปญโฆษณาที่ไม่ได้ผลนับเป็นสัญญาณแรกของ “ความเจ็บป่วย” คือ ROAS ที่ต่ำหรือที่เราพูดไปก่อนหน้านี้คือ ROAS ที่น้อยกว่า 100%

การเจาะลึกเมตริกแคมเปญโฆษณาที่สำคัญ เช่น จำนวนเงินที่ได้รับจากโฆษณาและจำนวนเงินที่คุณใช้จ่ายไปกับโฆษณา คุณจะสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ ROAS และวัดประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญโฆษณาของคุณได้

หากเปอร์เซ็นต์ ROAS ที่คำนวณได้ของคุณน้อยกว่า 100% ถึงเวลาที่ต้องคิดทบทวนแคมเปญของคุณใหม่ว่ามีส่วนใดทีต้องปรับหรือแก้ไข ถ้ามากกว่า 100% ให้ทำในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่เพราะถือว่ามาถูกทางแล้ว

2. บังคับให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของโฆษณาและการสร้างรายได้

คุณไม่สามารถใช้เครื่องคำนวณผลตอบแทนจากค่าโฆษณา หากไม่มีเมตริกแคมเปญโฆษณาที่สำคัญ

เมื่อคุณใช้เครื่องคำนวณ ROAS คุณจะถูกบังคับให้ดูเมตริกแคมเปญที่ไม่สามารถสร้างรายได้ได้ ตัวอย่างเช่นคุณอาจใช้จ่ายจำนวนเท่าเดิมในแคมเปญโฆษณาของคุณทุกเดือน แต่ไม่เคยหยุดดูรายได้ที่คุณได้รับจากแคมเปญนั้นๆ

ประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องคำนวณ ROAS คือการบังคับให้คุณทราบเมตริกแคมเปญโฆษณาที่สำคัญ เช่น ค่าใช้จ่ายเทียบกับรายได้

3. ไม่ต้องกังวลเรื่องการคำนวณผิด

เครื่องคำนวณ ROAS ฟรีที่เรามีให้ เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการตรวจสอบว่าคุณคำนวณเมตริกที่สำคัญอย่าง ROAS ผิดพลาดหรือไม่

เพราะมีตัวเลขจำนวนมากที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผิดพลาดได้ง่าย ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณจะได้รับ ROAS ที่ผิดพลาดและแคมเปญโฆษณาที่เข้าใจผิดไปด้วย

ดังนั้น เมื่อคุณใช้เครื่องคำนวณผลตอบแทนจากค่าโฆษณา คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องทุกครั้ง

ROAS มีผลต่ออะไรบ้าง?

มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อ ROAS ของคุณ ได้แก่ :

การกำหนดเป้าหมาย

การกำหนดเป้าหมายช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ชมที่ตรงเป้าหมายที่สุดด้วยโฆษณาของคุณ และหากทำไม่ถูกต้อง คุณสามารถแก้ไขกลยุทธ์การตลาดได้ทันที

เมื่อคุณไม่กำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เหมาะสม ผู้ใช้ที่สนใจสินค้า จะไม่เห็นโฆษณาของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจกำลังสร้างโฆษณาที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

ในการกำหนดเป้าหมายอย่างถูกต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือกและเสนอราคา สำหรับคำหลักที่ผู้ชมของคุณค้นหา

และยังต้องคำนึงด้วยว่า คุณกำหนดเป้าหมายคำหลักแบบสั้นหรือคำหลักแบบยาว

โดยทั่วไปคำหลักแบบสั้นประกอบด้วย 1-2 คำและกำหนดเป้าหมายไปยังผู้ชมที่กว้างมาก ในขณะที่คำหลักแบบยาวจะมีจำนวนคำที่ยาวกว่าและมีรายละเอียดวลีที่กำหนดเป้าหมายผู้ชมเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

คุณจะจ่ายเงินมากขึ้น สำหรับคำหลักแบบสั้น เพราะมีการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้จำนวนมาก ส่วนคำหลักแบบยาวจะมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า

รายละเอียดของคำหลักแต่ละประเภทมีดังนี้

  • คำหลักแบบสั้น:คำหลักหรือคีย์เวิร์ดประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นและอาจไม่สร้างรายได้ให้คุณ เพราะบริษัทจำนวนมากต้องการได้รับยอดขายจากคำหลักกว้างๆ แบบนี้ จึงเป็นการยากที่จะเกิดการซื้อขายได้จริง เพราะผู้ใช้ที่ค้นหาคำหลักประเภทนี้เป็นเพียงการหาข้อมูลแต่ไม่พร้อมที่จะซื้อ
  • คำหลักแบบยาว:มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและคุณมีแนวโน้มที่จะสร้างยอดขายจากโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายคำหลักเหล่านี้ ที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เพราะมีบริษัทจำนวนไม่มากที่เสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ และผู้ใช้ที่ค้นหาคำหลักเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำ Conversion เมื่อพวกเขาพบสิ่งที่ต้องการ
ต้นทุนต่อคลิก

ไม่ว่าราคาต่อหนึ่งคลิก (CPC) ของคุณจะสูงหรือต่ำเกินไปก็ไม่ได้บ่งบอกถึง ROAS ของคุณได้ดี

หาก CPC ต่ำเกินไป โฆษณาของคุณอาจไม่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเนื่องจากไม่ชนะการประมูลการเสนอราคาสำหรับคำหลักนั้นๆ แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายสูงก็หมายความว่าโฆษณาของคุณเข้าถึงผู้ชมที่เหมาะสม (รอการกำหนดเป้าหมายที่ถูกต้อง) แต่คุณจะมีค่าใช้จ่ายงบประมาณโฆษณาที่แพงขึ้น

วิธีในอุดมคติที่ดีที่สุดในการบรรลุ ROAS เชิงบวกและ CPC คือการทำงานร่วมกับหน่วยงานการตลาดดิจิทัลที่ให้บริการเต็มรูปแบบเช่น Uptle ทีมของเราทราบดีถึงรายละเอียดของการบรรลุ CPC ที่สมบูรณ์แบบและช่วยให้คุณบรรลุ ROAS ตามเป้าหมาย

หน้า Landing Page

หน้า Landing Page คือองค์ประกอบสุดท้ายของการสร้างโฆษณา ผู้ใช้จะเห็นหน้านี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงจากการดูเป็นการซื้อ ดังนั้นคุณต้องทำให้น่าดึงดูด น่าตื่นเต้นและเกิดการมีส่วนร่วมของผู้เข้าชมเว็บไซต์

หากคุณสร้างหน้า Landing Page และมีข้อมูลน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยไม่มี CTA ที่ชัดเจนทั้งในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือ ราคาผลิตภัณฑ์ คุณจะพลาดโอกาสในการขายและพลาดการสร้าง ROAS ที่ดี

สิ่งสำคัญคือคุณต้องสร้างหน้า Landing Page ที่เปลี่ยนผู้ซื้อหน้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าประจำ รวมหน้าที่ต้องมีเหล่านี้เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย:

  • CTA
  • ราคาสินค้า
  • วัสดุผลิตภัณฑ์
  • ปริมาณหรือหน่วยวัดของสินค้า
  • ตัวเลือกขนาด
  • ตัวเลือกสี
  • ภาพสินค้า
  • รายละเอียดสินค้า
  • นโยบายการคืนสินค้า
  • บทวิจารณ์
เพิ่มผลตอบแทนจากค่าโฆษณาของคุณด้วย Uptle

Uptle เป็นหน่วยงานการตลาดดิจิทัลที่เชี่ยวชาญในการสร้างแคมเปญโฆษณาที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อคุณสร้างโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจ คุณคงไม่ต้องการให้ธุรกิจเงียบหายไป เป้าหมายคือการได้รับเงินคืนมากกว่าที่คุณจ่ายไปกับโฆษณาของคุณ นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาที่ Uptle ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้

เราสามารถช่วยคุณกำหนดเป้าหมายคำหลักและผู้ชมที่เหมาะสมกับโฆษณา รวมทั้งกำหนดราคาเสนอราคาที่เหมาะสมและอื่นๆ

เราจะคอยติดตามการวิเคราะห์แคมเปญของคุณ เพื่อให้คุณทราบอยู่เสมอว่าแคมเปญต่างๆ ทำงานเป็นอย่างไรและการเปลี่ยนแปลงสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นกับแคมเปญที่เพิ่ม ROAS ของคุณ Uptle ยินดีให้บริการ ติดต่อเราทางออนไลน์ หรือโทรหาเราที่ 888-601-5359!

คำถาม?

มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Uptle? เรายินดีที่จะตอบคำถามเหล่านี้

กรอกแบบฟอร์มด้านล่างเพื่อสอบถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมของเราว่าอย่างไร
ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับคุณกิจกรรมหรือกระบวนการจ้างงานของเรา

พร้อมที่จะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด?

คุณ Sales

081-111-2233
1.6M

ชั่วโมงแห่งความเชี่ยวชาญ

300+

ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัล

1,128

ชั่วโมงแห่งความเชี่ยวชาญ